ความเป็นมาโครงการ
ที่พักริมทาง (Rest Area) เป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เพื่อเป็นจุดแวะพักของผู้ใช้ทาง มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เดินทางบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและความสูญเสียจากความเหนื่อยล้าหรือหลับในของผู้ขับขี่ โดยภายในพื้นที่ดังกล่าว มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ที่จอดรถ ศาลาพักผ่อน ห้องน้ำ ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายสินค้า สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น ซึ่งเป็นการยกระดับการให้บริการแก่ประชาชน ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย ตลอดจนช่วยให้ผู้ใช้ทางประหยัดเวลาและลดค่าใช้จ่ายจากการเดินทางเข้า-ออกทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองโดยไม่จำเป็นอีกด้วย
เพื่อลดภาระงบประมาณ และส่งเสริมให้เอกชนที่มีศักยภาพ มีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ กรมทางหลวงจึงดำเนินการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โดย เปิดโอกาสให้เอกชนนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มาร่วมในการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ภายใต้แนวทางการให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP Net Cost
ข้อกำหนดกรมทางหลวง เรื่อง มาตรฐานและลักษณะที่พักริมทางในเขตทางหลวงพิเศษและทางหลวงสัมปทาน พ.ศ.2566
(1) ศูนย์บริการทางหลวง (Service Center) ที่พักริมทางหลวงขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ขึ้นไป โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการครบทุกประเภท จัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นจุดแวะพักหลักสำหรับผู้ใช้ทาง

(2) สถานที่บริการทางหลวง (Service Area) ที่พักริมทางขนาดกลาง มีเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ขึ้นไป โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการอย่างเพียงพอต่อการใช้งาน จัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นจุดแวะพักหลักสำหรับผู้ใช้ทาง

(3) จุดพักรถ (Rest Stop) ที่พักริมทางขนาดเล็ก มีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ขึ้นไป โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการอย่างเพียงพอต่อการใช้งาน จัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นจุดแวะพักเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ทาง หรือสำหรับผู้ใช้ทางบางประเภทเป็นการเฉพาะ เช่น จุดพักสำหรับผู้ขับขี่รถบรรทุก


แนวคิดการออกแบบที่พักริมทาง
- จัดให้มีที่พักริมทางทั้ง 2 ทิศทางของทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง และอยู่ตรงข้ามกันเพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการ
- ออกแบบโครงการ ให้อยู่นอกเขตแนวสายทางปกติของทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง
- ออกแบบโครงการทั้ง 2 ทิศทาง ให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก
- ออกแบบโครงการ เพื่อรองรับการให้บริการในด้านต่าง ๆ เช่น ที่จอดพักรถ การเติมน้ำมันเชื้อเพลิงการซ่อมรถ การรับประทานอาหารเครื่องดื่ม การใช้บริการห้องน้ำ การรับบริการสื่อสาร (โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต) การรับข้อมูลข่าวสารการเดินทาง
- ออกแบบอาคารภายในโครงการ โดยคำนึงถึงประโยชน์การใช้สอยเป็นหลัก โดยยึดเอารูปแบบการใช้งาน (Function) เป็นสำคัญ ประกอบกับรูปแบบอาคารที่เหมาะสม โดยสามารถสรุปได้ดังนี้
- จัดให้มีองค์ประกอบที่จำเป็นอย่างครบถ้วน ตามประกาศกรมทางหลวง
- จัดผังบริเวณอาคารให้เหมาะสมแก่การเข้าถึง
- มีทางเดินเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม
– มีการป้องกันแดด กันฝนได้ดี
– ใช้วัสดุท้องถิ่นเป็นส่วนตกแต่งอาคาร
– จัด Landscape ให้สวยงาม ร่มรื่น
– จัดพื้นที่จอดรถให้เป็นสัดส่วน และเพียงพอ
– จัดช่องทางเดินรถเข้าออกให้สะดวก ไม่ทำให้เกิดแถวคอย และไม่กระทบต่อผู้ใช้ทางหลวงพิเศษ
ระหว่างเมือง รวมถึงสามารถใช้ทางบริการโดยรอบได้อย่างสะดวกและมีความปลอดภัย
– มีป้ายบอกช่องทางเข้า – ออก และป้ายสถานที่ภายในโครงการ ที่ชัดเจน - ออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมโครงการ ให้สร้างบรรยากาศที่กลมกลืนระหว่างตัวอาคารกับธรรมชาติ
สร้างความผ่อนคลายให้กับผู้ใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองที่เข้าใช้บริการโครงการ - ออกแบบโครงการ ให้มีรูปแบบที่งดงาม เป็นเอกลักษณ์น่าจดจำให้แก่ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง
พื้นที่ และชุมชนโดยรอบโครงการ - ออกแบบโครงการโดยนำร้านค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกมารวมกันไว้ ณ จุดเดียวบนอาคารยกระดับที่คร่อมอยู่เหนือช่องจราจรมอเตอร์เวย์ เพื่อรองรับการใช้บริการของผู้ใช้ทางจากทั้งสองฝั่ง ทำให้สามารถประหยัดพื้นที่ก่อสร้างบนพื้นราบ และนำพื้นที่ดังกล่าวไปใช้รองรับรถยนต์ได้เพิ่มขึ้น โดย M6 ก่อสร้างที่สถานที่บริการทางหลวงสระบุรี และจุดพักรถข้ามทะเลสอ ส่วน M81 ก่อสร้างบริเวณสถานที่บริการทางหลวงนครชัยศรี